ไม่ขอกลับไปเจ็บแบบนั้นอีก!’ คุณยายอายุเกือบ 90 ปี ที่เคยผ่าตัดข้อเข่ามาแล้ว เลือกวิธีรักษาข้อเข่าเสื่อมวิธีใหม่ที่ดีกว่า ไม่ต้องผ่าตัดอีก

คุณยายวัย 90 ปีเลือกฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมด้วยโปรแกรม BRT ของ BBL Wellness Center หลังเคยผ่านการผ่าตัดมาแล้ว และกลับมาเดินเองได้อีกครั้ง

ไม่ขอกลับไปเจ็บแบบนั้นอีก!’ คุณยายอายุเกือบ 90 ปี ที่เคยผ่าตัดข้อเข่ามาแล้ว เลือกวิธีรักษาข้อเข่าเสื่อมวิธีใหม่ที่ดีกว่า ไม่ต้องผ่าตัดอีก

'ไม่ขอกลับไปเจ็บแบบนั้นอีก!' คุณยายวัย 90 ปี ที่เคยผ่าตัดข้อเข่ามาแล้ว เลือกวิธีรักษาข้อเข่าเสื่อมวิธีใหม่ที่ดีกว่า ไม่ต้องผ่าตัดอีก

คุณอำพันธ์ พิทักษ์วงษ์ (พันธ์) อายุเกือบ 90 ปี

คุณยายอำพันธ์ เคยชอบเดินเล่นและพูดคุยกับเพื่อนบ้าน แต่ปวดเข่ามานานเกือบ 20 ปี ทำให้ชีวิตลำบากขึ้น เดิมทีคนไข้ยังขับรถไปทำงาน พูดคุยกับเพื่อนบ้าน และทำธุระต่างๆ เองได้ แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุบ่อย คุณประพันธ์ (ลูกสาว) จึงขอให้อยู่บ้าน แม้จะอยากออกไปพบปะผู้คน แต่ด้วยอาการปวดเข่าที่รุนแรงขึ้นจึงทำไม่ได้

ครั้งแรกคนไข้ตัดสินใจผ่าตัดข้อเข่าข้างหนึ่งตามคำแนะนำของเพื่อน แต่กลับพบว่าการผ่าตัดส่งผลกระทบต่อร่างกายมาก และทรมานจนไม่อยากผ่าตัดอีก คุณหมอที่ทำการรักษายังบอกว่าเป็นผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่อายุมากที่สุดที่เข้ารับการผ่าตัดกับตน นอกจากปัญหาข้อเข่าแล้ว คนไข้ยังเป็นกรดไหลย้อนบ่อยครั้ง ทำให้อารมณ์สวิง ลูกสาวจึงพยายามหาสมุนไพรให้ทานเพื่อช่วยบรรเทาอาการ และยังมีโรคประจำตัวอีกมากมายด้วย

เมื่ออาการข้อเข่าเสื่อมรุนแรงขึ้นจนไม่สามารถขับรถหรือออกไปพบผู้คนได้เหมือนเดิม ทำให้คนไข้อารมณ์เสียมาก เกิดความเครียดมาก ลูกสาวจึงพาไปหาหมอนวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม และเพื่อให้มีโอกาสพบปะผู้คนบ้าง ซึ่งหลังจากรักษาที่คลินิก อาการดีขึ้นทุกครั้งจนคนไข้รู้สึกพอใจ และเล่าว่าดีกว่าหลังการผ่าตัด

ในช่วงที่ปวดเข่าหนักจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ คนไข้ไม่มีความสุขเพราะเคยทำอะไรเองได้แต่กลับต้องพึ่งพาคนอื่น

ประวัติการรักษาข้อเข่าเสื่อม ก่อนเข้ามารับการรักษาที่ BBL Wellness Center ของเรา

  • เคยผ่าเข่าข้างซ้ายมาแล้วประมาณ 1 ปี ก่อนเข้ามารักษากับเรา

  • ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่ามาแล้ว 3 ครั้ง

อินโฟกราฟิกแนะนำโปรแกรมฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อม BRT ไม่ต้องผ่าตัด ที่คลินิก BBL Wellness Center

อาการหลังเข้ามารักษาครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25/01/25

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 คุณยายเดินทางมารับการรักษาครั้งแรกกับ BBL Wellness Center คนไข้มีประวัติการผ่าตัดเข่าข้างซ้ายมาแล้วเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน

หลังการผ่าตัด แม้จะยังพอเดินเองได้บ้าง แต่ทุกก้าวเต็มไปด้วยความลำบาก มีอาการเจ็บลึกในข้อเข่า ร้าวลงน่อง และตึงสะโพกเรื้อรังร่วมด้วย โดยเฉพาะเวลาต้องลงน้ำหนักหรือเปลี่ยนอิริยาบถ จะรู้สึกเจ็บจี๊ดและปวดแปลบเป็นระยะ ทำให้คุณยายต้องใช้รถเข็นช่วยพยุงแทบตลอดเวลา

ในบางคืน คนไข้มีอาการปวดเข่าร่วมกับอาการบวม สังเกตว่าลักษณะขาค่อนข้างโก่ง นอกจากนี้ยังมีอาการเจ็บบริเวณหลังข้อพับเข่า และมีอาการเป็นตะคริวเป็นระยะในบางช่วง โดยเฉพาะบริเวณเข่าข้างที่เคยผ่าตัด จะยังคงมีอาการปวดประปราย ซึ่งแม้จะไม่รุนแรงตลอดเวลา แต่ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งสำคัญ — วันที่คุณยายตัดสินใจ “ลุกขึ้นสู้” กับอาการเจ็บเข่าเรื้อรัง เพื่อกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกครั้ง และวันนั้นคือก้าวแรกที่เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูชีวิตของคุณยายอย่างแท้จริง

เจ้าหน้าที่ช่วยพาผู้สูงอายุลงจากรถตู้มานั่งรถเข็นบริเวณคลินิก BBL Wellness Center

อาการหลังเข้ามารักษาครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 05/02/25

อาการของคนไข้เริ่มมีพัฒนาการให้เห็นชัดเจน หลังจากเคยต้องใช้รถเข็นตลอด ตอนนี้สามารถกลับมายืนและเดินได้อีกครั้งแม้จะยังต้องมีคนคอยพยุงอยู่ อาการปวดยังมีบ้าง โดยเฉพาะเวลาลุกขึ้นหรือเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น เมื่อลงจากรถหรือขยับหลังนั่งนานๆ แต่โดยรวมความเจ็บลดลง ไม่ปวดหนักเหมือนก่อน

อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วอาการของคนไข้มีแนวโน้มดีขึ้น ผู้ดูแลแจ้งว่า คนไข้ไม่บ่นปวดเหมือนที่เคยเป็นก่อนหน้านี้

นักกายภาพบำบัดช่วยผู้สูงอายุเดินในคลินิก BBL เพื่อฟื้นฟูอาการข้อเข่าเสื่อม

อาการหลังเข้ามารักษาครั้งที่ 3 เมื่อวันที่  12/02/25

อาการของคนไข้โดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างชัดเจน ปัจจุบันคนไข้บ่นปวดเข่าน้อยลงกว่าช่วงที่ผ่านมา อาการปวดที่ยังคงมีอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะตึงที่เข่าข้างขวา โดยเฉพาะบริเวณใต้ข้อพับ น่อง และต้นขา

ในช่วงที่พักอยู่บ้าน คนไข้แทบไม่มีอาการปวดเข่าให้เห็น อย่างไรก็ตาม จะเริ่มมีอาการเมื่อต้องเดินทางไกล โดยเฉพาะเมื่อนั่งรถเป็นเวลานานเพื่อมารับการรักษา ซึ่งอาจทำให้เกิดความตึงและปวดเพิ่มขึ้น

ช่วงเวลากลางคืนคนไข้ไม่มีอาการปวด จึงสามารถพักผ่อนได้ตามปกติ

นักกายภาพบำบัดจับมือผู้สูงอายุพาเดินเพื่อฟื้นฟูข้อเข่าในคลินิก BBL

อาการหลังเข้ามารักษาครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 19/02/25

อาการของคนไข้ยังคงมีความเปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆ เมื่อวานนี้คนไข้ได้ไปรับการบำบัดด้วยแผนโบราณ โดยเน้นที่บริเวณคอ บ่า และน่อง ซึ่งเป็นการรักษาเสริมจากการดูแลหลัก

อาการปวดเข่าของคนไข้ในภาพรวมถือว่าลดลง ปวดไม่ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงพักหรือทำกิจกรรมเบาๆ จะไม่รู้สึกปวดชัดเจน อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มออกกำลังกาย เช่น การปั่นจักรยานอยู่กับที่ จะมีอาการปวดแสดงออกมาชัดเจนมากขึ้น

มีอาการตึงบริเวณข้างขาซ้าย โดยเฉพาะเวลาเหยียดขา แต่สามารถเหยียดและกดขาซ้ายลงได้ลึกกว่าเดิม จนเกือบแตะถึงพื้น ขณะที่ขาขวาซึ่งเคยผ่าตัด ยังคงมีขีดจำกัดในการเหยียดมากกว่า

ด้านการงอเข่า คนไข้สามารถงอได้มากขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า แม้จะยังมีอาการเจ็บเล็กน้อย แต่ก็แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น

ผู้สูงอายุเดินได้ด้วยตนเองในคลินิก BBL พร้อมรอยยิ้มของนักกายภาพด้านหลัง

อาการหลังเข้ามารักษาครั้งที่ 5 เมื่อวันที่  26/02/25

อาการโดยรวมของคนไข้ในขณะนี้ถือว่าดีขึ้นมาก ปัจจุบันไม่ค่อยมีอาการปวดแล้ว โดยมีเพียงอาการปวดหรือเสียวเล็กน้อยเป็นบางช่วงขณะเดินเท่านั้น ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก

ช่วงกลางคืนไม่มีอาการปวดอีกแล้ว ทำให้คนไข้สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ตามปกติ

นอกจากนี้ ขณะถีบจักรยานอยู่กับที่ คนไข้รายงานว่าไม่มีอาการเจ็บแต่อย่างใด แสดงถึงพัฒนาการที่ดีของข้อเข่าในการรับน้ำหนักและเคลื่อนไหว

ผู้สูงอายุปั่นจักรยานอยู่หน้าบ้านหลังเข้ารับโปรแกรม BRT ที่ BBL

อาการหลังเข้ามารักษาครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 05/03/25 และครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 19/03/25

หลังจากที่คุณยายเริ่มฟื้นตัวได้ดีในช่วง 5 ครั้งแรก คราวนี้คุณยายกลับมารักษาต่อเนื่องในครั้งที่ 6 และ 7 เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้มั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายตอบสนองได้ดีมาก และเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจนในทุกย่างก้าว

คุณยายกลับมารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน เพราะอยากฟื้นตัวให้ดีที่สุด และผลที่ได้ก็น่าประทับใจมาก — จากคนที่เคยเดินไม่ได้เลย วันนี้คุณยายเดินได้มั่นคง เดินได้ “นิ่มมาก” ไม่ต้องพยุง ไม่ต้องใช้ไม้เท้า เดินกลับบ้านเองได้อย่างสง่างาม

อาการเจ็บปวดที่เคยมีลดลงไปเกือบหมด ไม่ปวดรบกวนกลางคืนแล้ว และตอนนี้เวลาขยับตัว ลุก เดิน หรือแม้กระทั่งถีบจักรยานอยู่กับที่ ก็ไม่มีอาการเจ็บเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เหลือเพียงความรู้สึกเล็กน้อยตามธรรมชาติของข้อต่อที่กำลังฟื้นตัว

ในช่วงนี้อาการปวดเข่าของคนไข้ลดลงอย่างชัดเจน โดยไม่ค่อยมีอาการให้เห็นแล้ว คนไข้ให้ข้อมูลว่าได้ไปนวดแผนไทยเป็นครั้งคราว เพื่อช่วยลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ ซึ่งมีส่วนช่วยให้รู้สึกสบายตัวและเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนในระยะนี้ คนไข้จึงไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหนัก แต่ยังคงพยายามยืดกล้ามเนื้ออยู่บ้างเป็นระยะ เพื่อรักษาความยืดหยุ่นและป้องกันอาการตึงกลับมา

นี่ไม่ใช่แค่การรักษา แต่มันคือ “การกลับมาใช้ชีวิต” อย่างแท้จริง และคุณยายก็เป็นตัวอย่างที่ดีของความตั้งใจ ความต่อเนื่อง และความหวังที่ฟื้นคืนได้เสมอ

ขั้นตอนการฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมด้วยเครื่อง INDIBA, การฉีด PRP และการเดินจริงหลังรักษา

สรุป

  1. ประวัติเบื้องต้น

    – เคยผ่าตัดเข่าข้างขวาเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน
    – หลังผ่าตัดยังคงมีอาการปวดเป็นระยะ โดยเฉพาะในช่วงแรก

  2. อาการที่เคยมี

    – ปวดเข่าไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะเวลานั่งนาน หรือลงจากรถ
    – ปวดช่วงกลางคืนบ้างบางวัน
    – ขาโก่ง เข่าบวม เจ็บบริเวณหลังข้อพับ
    – เป็นตะคริวเป็นบางช่วง
    – มีอาการตึงที่ต้นขา ข้อพับ และน่อง
    – ข้างซ้ายตึงแต่เหยียดได้มากกว่าข้างขวา
    – ขณะงอเข่าเจ็บเล็กน้อยแต่สามารถงอได้มากขึ้น

  3. การฟื้นตัวและพฤติกรรมการดูแล

    – ไปนวดแผนไทยเป็นระยะ เพื่อลดอาการตึง
    – ช่วงอากาศร้อน ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่ยังยืดกล้ามเนื้อบ้าง
    – เคยมีอาการขัดเข่าหลังล้ม แต่เอกซเรย์สมองปกติ และเดินได้ดีขึ้นภายหลัง

  4. อาการปัจจุบัน วันที่ 19/03/25

    คุณยายในภาพนี้เป็นอีกหนึ่งเคสที่น่าประทับใจมาก เพราะจากวันที่เข้ามารักษาครั้งแรกในสภาพที่นั่งรถเข็น ไม่สามารถพยุงตัวเองได้ และมีอาการเจ็บหัวเข่ารุนแรง ถึงขั้นพูดคุยหรือเคลื่อนไหวเองแทบไม่ได้เลย ผ่านการรักษาเพียงไม่กี่ครั้ง ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    หลังการรักษาครั้งที่ 2 คุณยายสามารถกลับมายืนและเดินได้อีกครั้ง แม้ในช่วงแรกจะต้องมีคนคอยพยุงอยู่ แต่เพียงไม่กี่วันต่อมา พอเข้าสู่การรักษาครั้งที่ 3 คุณยายสามารถเดินเองได้แล้วโดยไม่ต้องมีคนช่วย หรือใช้ไม้เท้าใด ๆ ทั้งสิ้น ความมั่นใจเริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง

    เข้าสู่ครั้งที่ 4 คุณยายยืนและเดินได้อย่างมั่นคงเต็มที่ เดินในคลินิกได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ช่วยพยุง และในครั้งที่ 5 คุณยายถึงขั้นกลับมาออกกำลังกายเบาๆ ได้ ด้วยการปั่นจักรยานอยู่กับที่ที่บ้าน และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ใกล้เคียงกับช่วงที่ยังแข็งแรง

    อาการโดยรวมดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องการเคลื่อนไหวและความเจ็บปวดอาการปวดลดลงมาก บ่นปวดน้อยลงกว่าเดิมมาก

    อาการที่ดีขึ้นโดยรวมประกอบด้วย:

    – ปวดลดลงมาก บ่นปวดน้อยลง

    – ไม่ปวดช่วงกลางคืนแล้ว

    – ปวดหรือเสียวเล็กน้อยเฉพาะเวลาลุกเดิน

    – ขณะถีบจักรยานอยู่กับที่ไม่มีอาการเจ็บ

    เคสนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของการฟื้นฟูที่เหมาะสม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องทานยา แต่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพอีกครั้งได้จริงๆ

พัฒนาการของผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมในแต่ละขั้นตอนของโปรแกรม BRT ที่ BBL Wellness Center

หากคุณหรือคนที่คุณรักมีอาการปวดเข่า ข้อฝืดตึง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือรู้สึกไม่สะดวกในการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน สามารถเข้ามารับการประเมินอาการ รับคำปรึกษา และดูแลอย่างต่อเนื่องกับพวกเรา BBL Wellness Center Clinic

ด้วยประสบการณ์ของเรา อาการปวดจากการใช้งานซ้ำ หรือล้มบาดเจ็บเล็กน้อย เราพร้อมให้คำแนะนำ บำบัด และวางแผนการดูแลเฉพาะบุคคล เพื่อให้คุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น

       🩺 ดูแลด้วยความเข้าใจ พร้อมบำบัดทั้งทางกายภาพ และการส่งเสริมการเคลื่อนไหว

       🤝 ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาการฟื้นตัวอย่างเป็นระบบ

       📍สถานที่สะดวก เดินทางง่าย พร้อมบรรยากาศผ่อนคลาย

สุขภาพที่ดี เริ่มต้นได้ที่การดูแลตั้งแต่วันนี้

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หรือปรึกษากับแพทย์ได้ที่

📞 063-312-4866

📍เดอะวอล์ค สาขาราชพฤกษ์ พระราม 5, ชั้น 2 ห้อง TRPAF2A-206 (หน้าลิฟท์แก้ว)

หรือกรอกข้อมูลเพื่อปรึกษาทีมแพทย์ของคลินิกเราได้เลยครับ

Facebook
Twitter
LinkedIn
DrPromote

บทความอื่น ๆ